หลังจากลือกันมานาน วันนี้ InnovestX เปิดตัวซูเปอร์แอปอย่างเป็นทางการแล้ว ภายใต้ชื่อ InnovestX App
จุดเด่นคือ รวมการลงทุนทุกอย่างในแอปพลิเคชั่นเดียว ตั้งแต่หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุน ตราสารหนี้ และ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’
ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด บอกว่า การรีแบรนด์จากบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เป็นการ Reimagined จากบริษัทหลักทรัพย์มาเป็น ‘แพลตฟอร์ม’ โดยมีเป้าหมายธุรกิจ 3 ปี คือ
ในปีแรก (2566) ตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มที่ทุกคนเข้าถึงการลงทุน สามารถลงทุนได้ครบทุกสินทรัพย์ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทุกคนรอคอย
สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ FTX, Coinbase และ Bitkub ส่วนในอนาคต คาดว่าจะเชื่อมต่อเพิ่มเติมกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDX) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
ปัจจุบันสามารถเทรดได้ทั้งหมด 21 เหรียญ โดยบริษัทฯ จะทยอยลิสต์เหรียญใหม่ๆ เข้ามาต่อเนื่อง แน่นอนว่ามีการพิจารณาเรื่องคุณภาพตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เมื่อสอบถามถึงการทำกระดานเทรดเอง ดร.อารักษ์ บอกว่า ปัจจุบัน InnovestX มีใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) แล้ว
แต่ตอนนี้จะเน้นการเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลก่อน (Digital Asset Broker) และต่อกับพาร์ทเนอร์ก่อน ส่วนอนาคตจะศึกษาว่าใบอนุญาตดังกล่าวจะไปเติมเต็ม Ecosystem ส่วนใดบ้าง
เบื้องต้นคาดว่าในช่วง 2-3 ปีแรก สัดส่วนการเทรดคริปโตฯ น่าจะอยู่ที่ 20-30% แต่ในอนาคตก็มีโอกาสที่สัดส่วนรายได้กลุ่มนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นกลายเป็นรายได้หลัก
ในปีที่สอง (2567) เชื่อในศักยภาพของบล็อกเชน (Blockchain) มองเป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลกเหมือนอินเทอร์เน็ตเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ไม่ใช่แค่การเทรดคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น แต่มีเป้าหมายสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ เพื่อรองรับการทำธุรกรรมในโลกดิจิทัลอย่าง ‘ปลอดภัย’ และ ‘สบายใจ’
ซึ่ง InnovestX ตั้งเป้าหมายเป็นคนเชื่อมโยงทุกคนจากโลกเดิม (Physical World) ไปยังโลกดิจิทัล (Digital World)
ในปีที่สาม (2568) ถ้าอยากเป็นผู้นำในอาเซียน InnovestX ตั้งเป้าหมายว่าต้องมีลูกค้ามากกว่านี้ ราว 4-5 ล้านคน จากปัจจุบันฐานลูกค้าด้านการลงทุนเดิมของบริษัทฯ อยู่ที่ 2.5 ล้านคน
เมื่อเติบโตถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็คาดหวังว่าจะสามารถเข้าระดมทุน IPO เพื่อเติบโตต่อได้ โดยมีโอกาสที่จะระดมทุนทั้งตลาดหุ้นในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งระหว่าง 3 ปีก่อนเข้าตลาด คาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 10% ต่อเนื่องทุกปี
ส่วนการใช้งานแอปพลิเคชั่น ตอนนี้เปิดให้บางกลุ่มดาวน์โหลดแล้วผ่าน App Store และ Play Store และเที่ยงคืนนี้ (8 ต.ค. 2565) จะเปิดให้ดาวน์โหลดเป็นการทั่วไป
อ่านข่าวธุรกิจ เพิ่มเติมคลิ๊ก>>>ธอส.เดินหน้าพัฒนาบริการดิจิทัล ลดต้นทุน-เพิ่มการเข้าถึงลูกค้า รับตลาดสินเชื่อบ้านโตต่อเนื่อง